← กลับสู่หน้า Blog

การชุบทองเหลืองบนชิ้นงานเหล็กและความสำคัญของโลหะรองพื้น

ทำไมต้องมีชั้นทองแดง/นิกเกิลก่อนชุบทองเหลือง: ปัญหาความแข็ง/สึกหรอ, การแพร่คาร์บอน/สนิม, และความเงางามที่สม่ำเสมอ

ชั้นรองพื้นมีไว้ทำไม?

การเคลือบผิวด้วยทองเหลือง (Brass Plating) เป็นกระบวนการที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมการตกแต่งและการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความสวยงามและทนทาน เช่น อะไหล่ยานยนต์ เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ทางสถาปัตยกรรม แต่เมื่อชิ้นงานหลักเป็นเหล็ก การชุบทองเหลืองโดยตรงจะก่อให้เกิดปัญหาทั้งด้านคุณภาพและอายุการใช้งาน

โลหะรองพื้นอย่าง ทองแดง หรือ นิกเกิล จึงทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างเหล็กกับทองเหลือง ช่วยเพิ่มการยึดเกาะ ลดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี และคุมโทน/ความสม่ำเสมอของผิว

ปัญหาการยึดเกาะและปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี: เหล็กและทองเหลืองมีศักย์ไฟฟ้าที่แตกต่างกันอย่างมาก การชุบทองเหลืองบนเหล็กโดยตรงจะทำให้เกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี (Galvanic Corrosion) ที่รุนแรง ชั้นทองเหลืองจะยึดเกาะได้ไม่ดีและลอกหลุดง่ายในที่สุด แต่การมีชั้นรองพื้น เช่น ทองแดง หรือ นิกเกิล จะช่วยลดความแตกต่างทางศักย์ไฟฟ้านี้ ทำให้พันธะระหว่างชั้นเคลือบและโลหะฐานแข็งแรงและคงทนมากขึ้น การป้องกันการกัดกร่อน: เหล็กไวต่อการเกิดสนิมเมื่อสัมผัสกับอากาศและความชื้น ชั้นรองพื้นจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เหล็กเกิดสนิม โดยเฉพาะ นิกเกิล ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการแพร่ของคาร์บอนจากเหล็ก ซึ่งอาจทำให้สีของทองเหลืองหมองคล้ำและเกิดจุดด่างดำในภายหลัง การควบคุมความสม่ำเสมอของผิวและสี: ชั้นรองพื้นช่วยปรับปรุงพื้นผิวของชิ้นงานให้มีความเรียบเนียนและสม่ำเสมอก่อนการชุบขั้นสุดท้าย การชุบทองเหลืองลงบนฐานที่เรียบและเงาอย่างนิกเกิลจะช่วยให้ได้สีที่สม่ำเสมอทั่วทั้งชิ้นและมีความเงางามที่เหนือกว่า

ปัญหาการยึดเกาะ

เหล็กและทองเหลืองมีศักย์ไฟฟ้าแตกต่างกันชัด หากนำเหล็กลงชุบทองเหลืองโดยตรง พื้นผิวเหล็กทำหน้าที่เป็น Anode ส่วนทองเหลืองเป็น Cathode เกิดเซลล์ไฟฟ้าเคมีในสารละลายชุบ ส่งผลให้เหล็กกัดกร่อนเร็ว ชั้นทองเหลืองยึดเกาะไม่ดีและหลุดร่อน

การใส่ชั้น ทองแดง/นิกเกิล ตรงกลางช่วยทำให้ศักย์ใกล้กันขึ้นและสร้างพันธะโลหะที่แข็งแรงกับพื้นผิวเหล็ก จึงลดการกัดกร่อนและเพิ่มอายุการใช้งานของงานชุบ

ความแข็ง & การสึกหรอ

ชั้นรองพื้น ทองแดง ให้การยึดเกาะดี แต่ความแข็งราว ~100 HV จึงทนรอยขีดข่วนได้น้อย ขณะที่ นิกเกิล แข็ง ~200–500 HV ทนต่อการเสียดสีสูง

ในงานที่ถูกสัมผัสบ่อย (ลูกบิด กุญแจ ชิ้นส่วนเครื่องจักร) การวางชั้น นิกเกิล 5–15 µm เป็นเกราะรับแรง ก่อนชุบทองเหลือง จะช่วยให้ผิวทนทานขึ้นมาก

การแพร่คาร์บอน & กันสนิม

เหล็กมีคาร์บอนผสมอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปคาร์บอนอาจแพร่ขึ้นสู่ผิว ก่อให้เกิดความหมองหรือจุดด่างบนทองเหลือง

นิกเกิล เป็นชั้นกั้นการแพร่ที่ดี โครงสร้างหนาแน่นช่วยกันออกซิเจน/ความชื้นไม่ให้ถึงเหล็ก ลดความเสี่ยงการเกิดสนิม โดยเฉพาะสภาพชื้นหรือใกล้ทะเล

คุณภาพผิว & ความสวยงาม

นิกเกิลเงา ช่วยปรับผิวให้เรียบและเงางามเหมือนกระจก เมื่อชุบทองเหลืองทับ จะได้โทนสีสวย สม่ำเสมอ และคงความเงาได้นาน

ตรงกันข้าม หากชุบลงบนผิวเหล็กที่หยาบ/พรุน สีทองเหลืองมักด่าง ไม่สม่ำเสมอ และเสื่อมสภาพเร็ว

ตัวอย่างการประยุกต์

สรุป

การชุบทองเหลืองบนเหล็กโดยตรงนำไปสู่ปัญหาการยึดเกาะ สนิม และเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว การใช้ ทองแดง เป็นรองพื้นช่วยด้านการยึดเกาะ ส่วน นิกเกิล เพิ่มความแข็ง/ทนสึก ป้องกันการแพร่คาร์บอนและสนิม พร้อมยกระดับความเงางาม

งานที่ต้องการคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมจึงนิยมลำดับ ทองแดง → นิกเกิล → ทองเหลือง เพื่อให้ได้ผิวที่สวย ทน และอายุการใช้งานยาวนาน

LINE