← กลับเมนูหลัก

Nickel Plating — การชุบนิกเกิลเงา

ภาพรวม หลักการ คุณสมบัติ จุดเด่น ขั้นตอน และสภาพการทำงาน

ภาพรวมผลิตภัณฑ์

การชุบนิกเกิลเงา (Nickel plating) คือกระบวนการทางเคมีไฟฟ้าที่เคลือบผิวโลหะด้วยชั้นนิกเกิลที่บางและแข็งแรงเพื่อเพิ่มคุณสมบัติ เช่น ความทนทานต่อการกัดกร่อน การทนทานต่อการสึกหรอ และความสวยงามของชิ้นงาน กระบวนการนี้ทำงานโดยใช้กระแสไฟฟ้าผ่านสารละลายที่มีไอออนนิกเกิล ทำให้ไอออนเหล่านั้นตกตะกอนเคลือบติดที่ชิ้นงานอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้ชิ้นงานดูเงางามแล้ว การชุบนิกเกิลยังช่วยปกป้องพื้นผิวจากความเสียหายทั้งทางเคมีและทางกล ส่งผลให้ชิ้นงานมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

การชุบนิกเกิลมี 2 ประเภทหลัก คือ การชุบด้วยไฟฟ้า (Electroplating) และ การชุบแบบไม่ใช้ไฟฟ้า (Electroless Nickel Plating). การชุบด้วยไฟฟ้าใช้กระแสไฟเพื่อเคลือบผิวชิ้นงาน ส่วนการชุบแบบไม่ใช้ไฟฟ้าใช้สารเคมีแทน ซึ่งให้ความหนาที่สม่ำเสมอทั่วทั้งชิ้นงานแม้ในรูหรือซอกลึก.

จุดเด่นของน้ำยา

สรุปคุณสมบัติสำคัญสำหรับไลน์ชุบ ทั้งคุณภาพผิว ความเสถียร และความพร้อมต่อกระบวนการถัดไป

เงาสูงทั่วช่วงกระแส

ตั้งแต่ไฟต่ำจนถึงไฟสูงให้ผิวเงาเนียน สม่ำเสมอ

ครอบคลุมซอกลึก

การกระจายตัวดีเยี่ยม บริเวณรู/ร่องลึกเคลือบได้ทั่วถึง

ฐานทนกัดกร่อน

ชั้นนิกเกิลช่วยปกป้องสนิมและความชื้น

หน้าต่างปฏิบัติการกว้าง

ทำงานได้ยืดหยุ่นทั้งอุณหภูมิ ความเข้มข้น และกระแส

เก็บผิวและเกลี่ยผิว

ช่วยกลบรอยทราย ลดความหยาบ ให้ผิวเรียบเนียน

พร้อมรองรับโครเมียม

ผิวพร้อมรับชุบโครเมียมต่อสำหรับงานตกแต่ง

คุณสมบัติและประโยชน์ของการชุบนิกเกิล

  • ป้องกันการกัดกร่อน: ทนชื้น/สารเคมี/ละอองเกลือ ช่วยยืดอายุการใช้งาน

  • เพิ่มความแข็ง & ทนสึก: ลดรอยขีดข่วน เหมาะชิ้นส่วนเครื่องกล

  • ความสวยงาม: ผิวมันวาว เรียบเนียน เหมาะของตกแต่ง/ยานยนต์/จิวเวลรี่

  • ชั้นรองพื้น: ใช้เป็น undercoat ก่อนชุบโครเมียมเพื่อการยึดเกาะและทนกัดกร่อน

ส่วนที่ 1: การเตรียมสารละลาย

สัดส่วนแนะนำสำหรับบ่อ

ส่วนประกอบ ค่าแนะนำ ช่วงมาตรฐาน หน่วย
นิกเกิลซัลเฟต270–320240–340กรัม/ลิตร
นิกเกิลคลอไรด์20–6015–70กรัม/ลิตร
กรดบอริก40–5035–55กรัม/ลิตร
ยาพื้นนิกเกิล 9028–10ซีซี/ลิตร
ยาเงานิกเกิล A-Brite0.1–0.4ซีซี/ลิตร

ขั้นตอนการผสม

  • เติมน้ำกลั่น ~50% ของปริมาตรบ่อ
  • ละลายนิกเกิลซัลเฟตและนิกเกิลคลอไรด์จนหมด
  • เติมกรดบอริก คนให้ละลายดี
  • ปรับอุณหภูมิสารละลาย ~50–55 °C เพื่อช่วยละลาย แล้วลดลงสู่ช่วงทำงาน
  • เติมยาพื้น 902 และยาเงา A-Brite ตามอัตราแนะนำ (ผสมน้ำ 1:1 ก่อนเทลงบ่อ)
  • กรองด้วยไส้กรอง 10 µm จนใส

ส่วนที่ 2: ขั้นตอนการชุบ

การเตรียมผิว

เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ได้การเคลือบที่ยึดเกาะดีและสม่ำเสมอ

  • ทำความสะอาด: ขจัดคราบสกปรกทั่วไป เช่น ฝุ่น ดิน หรือคราบไขมันที่เกาะอยู่บนชิ้นงาน โดยอาจใช้ผงซักฟอกหรือสารละลายทำความสะอาดที่เหมาะสม
  • ขจัดไขมัน (Degreasing): เป็นการทำความสะอาดคราบไขมันที่มองไม่เห็น เช่น คราบน้ำมันจากการกลึงหรือคราบจาระบี ซึ่งมักใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่างหรือตัวทำละลายอินทรีย์
  • ล้างน้ำ: ล้างชิ้นงานด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง เพื่อกำจัดสารเคมีและสิ่งสกปรกที่ตกค้างออกให้หมดก่อนเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

การแอคทิเวต (Activation)

เป็นการปรับสภาพพื้นผิวให้พร้อมสำหรับการชุบ

  • ดิปกรดอ่อน: นำชิ้นงานไปแช่ในสารละลายกรดอ่อน เช่น กรดซัลฟูริก หรือกรดไฮโดรคลอริก เพื่อกำจัดชั้นออกไซด์บาง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นบนผิวโลหะ ทำให้ผิวโลหะสะอาดและพร้อมสำหรับการรับการเคลือบ
  • ล้างน้ำ: ล้างน้ำอีกครั้งเพื่อกำจัดกรดที่ตกค้าง

การชุบนิกเกิลเงา

ชุบในบ่อ A-Brite: สารละลายมาตรฐานสำหรับการชุบนิกเกิล ประกอบด้วย นิกเกิลซัลเฟต (Nickel Sulfate) เป็นแหล่งของไอออนนิกเกิล, นิกเกิลคลอไรด์ (Nickel Chloride) ช่วยเพิ่มการนำไฟฟ้าและลดการเกิดฟอง, และกรดบอริก (Boric Acid) ช่วยควบคุมค่า pH ในการชุบ

A-Brite: เป็นสารเติมแต่งที่ทำให้การชุบออกมาเป็นเงา ซึ่งอาจเป็นสารอินทรีย์หรือสารเคมีชนิดอื่นที่ช่วยปรับปรุงคุณสมบัติของสารละลาย เช่น ช่วยให้ผิวเคลือบเรียบเนียน เป็นมันเงา และเพิ่มความสามารถในการกระจายตัวของกระแสไฟฟ้า โดยควบคุมตัวแปรสำคัญ ได้แก่ ความหนาแน่นกระแส (Current Density) อุณหภูมิ (Temperature) และค่า pH เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การล้างน้ำ

หลังจากชุบเสร็จ ต้องล้างน้ำสะอาด 2–3 ขั้น เพื่อล้างสารเคมีที่ตกค้างออกให้หมดก่อนไปขั้นตอนต่อไป

การชุบโครเมียมต่อ

การชุบนิกเกิลเดี่ยว ๆ จะมีสีเหลืองนวลคล้ายสเตนเลส แต่ยังไม่ทนทานต่อรอยขีดข่วนเท่าที่ควร การชุบโครเมียมต่อจากชั้นนิกเกิลจึงเป็นที่นิยมในงานตกแต่ง เพื่อให้ได้สีเงินสว่างสวยงาม และเพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอและการกัดกร่อนได้ดียิ่งขึ้น

การอบแห้ง/เป่าแห้ง

เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อทำให้ชิ้นงานแห้งสนิทก่อนนำไปใช้งานหรือจัดเก็บ

สภาพการทำงานและอุปกรณ์ที่จำเป็น

สภาพการทำงาน (แนะนำ)

พารามิเตอร์ ค่าแนะนำ
อุณหภูมิ48–60 °C
pH3.8–4.5
ความหนาแน่นกระแสไฟ2–10 A/dm²
แอโนดNickel S/rounds ใส่ถุงผ้า PP
การกรองไหลเวียนต่อเนื่อง ไส้กรอง 10 µm
การกวนแกว่งชิ้นงาน หรือก๊าซ/ของเหลวตามเหมาะสม

อุปกรณ์ที่จำเป็น

บ่อชุบ

บ่อชุบคือภาชนะที่ใช้บรรจุสารเคมีสำหรับกระบวนการชุบโลหะ การเลือกวัสดุที่ใช้บุบ่อชุบมีความสำคัญมาก เนื่องจากสารเคมีในบ่อชุบมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง: PVC (Polyvinyl Chloride), PE (Polyethylene), หรือ PP (Polypropylene) เป็นพลาสติกชนิดทนกรด-ด่าง จึงเหมาะสำหรับใช้บุหรือสร้างบ่อชุบ เพื่อป้องกันไม่ให้โครงสร้างหลักของบ่อ เช่น เหล็กหรือคอนกรีต ถูกกัดกร่อนจากสารละลายเคมี

เครื่องกรอง

เครื่องกรองใช้เพื่อรักษาคุณภาพของสารละลายในบ่อชุบให้สะอาดอยู่เสมอ โดยการกรองแบบต่อเนื่อง 10 µm หมายถึงการกรองสารละลายในบ่อชุบอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่ทำการชุบ ด้วยไส้กรองความละเอียด 10 ไมโครเมตร เพื่อกำจัดอนุภาคเล็ก ๆ ที่อาจปนเปื้อน ซึ่งอาจทำให้ผิวชิ้นงานไม่เรียบเนียนหรือเกิดตำหนิได้

ระบบทำความร้อน/ระบายความร้อน

การควบคุมอุณหภูมิของสารละลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในกระบวนการชุบโลหะ ช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับสารละลายชุบนิกเกิลคือ 48–60 °C ช่วงนี้ช่วยให้ปฏิกิริยาเคมีดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การเคลือบเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและได้คุณสมบัติที่ต้องการ

ระบบกวน

ระบบกวนช่วยให้สารละลายในบ่อชุบมีความสม่ำเสมอ และป้องกันการสะสมของอนุภาคที่ผิวชิ้นงาน ถังแขวนใช้การแกว่งชิ้นงานช่วยกวนเป็นวิธีที่นิยม โดยแขวนชิ้นงานบนราวแล้วแกว่งอย่างช้า ๆ ระหว่างการชุบ เพื่อให้สารละลายรอบชิ้นงานไหลเวียน ไอออนของนิกเกิลเข้าถึงผิวได้ทั่วถึง และได้การเคลือบสม่ำเสมอทั้งชิ้นงาน

LINE