← กลับเมนูหลัก

Satin Nickel — นิกเกิลซาติน

ผิวด้าน/กึ่งด้าน สวยนุ่มนวล ลดเงาสะท้อน พร้อมสูตร Make-up สภาวะเดินงาน และการควบคุมบ่อ

ภาพรวมผลิตภัณฑ์

นิกเกิลซาตินมีผิวด้าน/กึ่งด้านที่ดูนุ่มนวลและไม่สะท้อนแสงมากจนเกินไป ให้ความรู้สึกที่หรูหราและทันสมัย นอกจากนี้ยังช่วยลดการสะท้อนของแสง ทำให้ชิ้นงานไม่ดูเงาวาวหรือแสบตา เหมาะสำหรับงานตกแต่งที่ไม่ต้องการความมันวาวสูง และต้องการความเรียบง่ายแต่ดูดี

ผิวซาตินได้จากการทำงานร่วมกันของสองขั้นตอนหลัก ขั้นแรกคือการเตรียมผิวด้วยการพ่นทรายหรือแปรงขัด เพื่อสร้างพื้นผิวที่หยาบและด้าน จากนั้นจึงนำไปชุบในบ่อชุบนิกเกิลที่มีการเติม Satin Carrier/Agent ซึ่งเป็นสารเคมีพิเศษที่ช่วยควบคุมการตกเคลือบของนิกเกิลให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งชิ้นงาน ทำให้ได้ผิวเคลือบที่ด้านอย่างทั่วถึงและสวยงาม

จุดเด่นของน้ำยา

สรุปคุณสมบัติสำคัญสำหรับไลน์ชุบ ทั้งคุณภาพผิว ความเสถียร และความพร้อมต่อกระบวนการถัดไป

ซาตินสม่ำเสมอ LCD-HCD

ผิวด้าน/กึ่งด้านคงเส้นคงวาทั้งพื้นที่กระแสต่ำ-สูง

ลดแสงสะท้อน

เหมาะชิ้นส่วนยานยนต์ อินทีเรีย เครื่ิองมือแพทย์ที่ต้องการ anti-glare

ทนการสัมผัส/ลายนิ้วมือ

คราบ/ริ้วดูเด่นน้อยกว่าผิวเงา ดูใหม่ยาวนาน

ฐานทนกัดกร่อน

ยังคงคุณสมบัตินิกเกิลเรื่องการป้องกันสนิมและความชื้น

ปรับระดับความด้านได้

คุมด้วย Satin Carrier A/B และ Foaming Agent ตามหน้างาน

โทนคล้ายสแตนเลส

สีเงินอมเทา สอดรับงานตกแต่ง และรองรับชุบโครเมียมต่อ

กระบวนการผลิตผิวซาติน

การเตรียมผิว

การสร้างผิวสัมผัสแบบด้านก่อนการชุบเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้ได้ผิวซาตินที่สม่ำเสมอ สามารถทำได้ด้วย 2 วิธีหลัก

พ่นทราย (Sandblasting)

ใช้การพ่นเม็ดทรายหรืออนุภาคขนาดเล็กด้วยแรงดันสูงไปที่ชิ้นงาน เพื่อสร้างพื้นผิวที่มีความหยาบและด้านอย่างสม่ำเสมอ

แปรงขัด (Brushing)

ใช้แปรงขัดผิวโลหะเพื่อให้เกิดลายเส้นที่ละเอียดและสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นพื้นผิวแบบกึ่งด้านก่อนการชุบ

สารเคมีพิเศษและการผสม

สารเคมีเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผิวซาติน

Satin Carrier A/B และ Foaming Agent SM เป็นส่วนผสมพิเศษที่ช่วยควบคุมการตกเคลือบของนิกเกิลให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอและสร้างผิวแบบซาติน ควรเติมตามปริมาณที่เหมาะสมกับหน้างาน

ก่อนเติมลงในบ่อชุบ ควรผสมสารเคมีกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 แล้วกวนให้กระจายตัวทั่วทั้งบ่อ เพื่อให้สารเคมีทำงานได้อย่างเต็มที่

การกวน

การกวนช่วยให้สารละลายในบ่อชุบมีความสม่ำเสมอและป้องกันปัญหาการตกเคลือบที่ไม่เท่ากัน

ควรโยกชิ้นงานระหว่างชุบอย่างช้า ๆ เพื่อให้สารละลายไหลเวียนรอบชิ้นงานอย่างทั่วถึง

หลีกเลี่ยงการกวนด้วยลม เพราะอาจทำให้เกิดฟองอากาศมากเกินไปและก่อให้เกิดตำหนิ

การเคลือบชั้นสุดท้าย

เป็นการเพิ่มคุณสมบัติให้กับชิ้นงานหลังจากชุบนิกเกิลซาตินเสร็จ

สามารถชุบโครเมียมเงาบาง (Flash Chrome) ต่อได้ เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการหมองและคราบ ทำให้ชิ้นงานคงความสวยงามได้นานยิ่งขึ้น

สูตรผสม (Make-up) — Nickel Satin SM

ออกแบบเพื่อผิวซาตินสม่ำเสมอ ทนการสัมผัส และรองรับโครเมียมต่อ

ส่วนผสม ค่าแนะนำ ค่ามาตรฐาน/ช่วง หน่วย
นิเกิ้ลซัลเฟต450400–450กรัม/ลิตร
นิเกิ้ลคลอไรด์5050–60กรัม/ลิตร
บอริกแอซิด4035–42กรัม/ลิตร
Satin Carrier A2015–25ซีซี/ลิตร
Satin Carrier B128–18ซีซี/ลิตร
Satin Foaming Agent SMตามหน้างาน0–2ซีซี/ลิตร

* Satin Foaming Agent SM ควรผสมน้ำก่อนเติมและกวนให้ทั่ว

สภาวะเดินงาน (Operating)

รายการ ค่าแนะนำ ช่วง
pH4.44.1–4.5
อุณหภูมิ55 °C50–60 °C
กระแสไฟ (A/dm²)4–63–8
แอโนดแผ่นนิเกิ้ล / เม็ดนิเกิ้ล (ใส่ถุงผ้าทนกรด)
การกวนโยกชิ้นงานระหว่างชุบหลีกเลี่ยงการกวนด้วยลม
การกวนกรองน้ำยาทุกวันหลังทำงาน

การปรับเติม / การสิ้นเปลือง (ต่อ 10,000 A·h)

รายการ อัตรา หมายเหตุ
Satin Carrier A0.5–1.5 ลิตรเติมตามระดับความด้านที่ต้องการ
Satin Carrier B1.5–3.0 ซีซี/ลิตรต่อปริมาตรบ่อ
Satin Foaming Agent SMตามหน้างาน หรือ ~0.02 ซีซี/ลิตร·ชม.ละลายในน้ำก่อนเติม

สรุปสารเคมีและพารามิเตอร์สำคัญในการชุบนิกเกิลซาติน

สารเคมีหลัก & พารามิเตอร์

  • นิกเกิลซัลเฟต (Nickel Sulfate): เป็นแหล่งหลักของไอออนนิกเกิลในสารละลายชุบ ถ้าความเข้มข้นของนิกเกิลซัลเฟตต่ำกว่ามาตรฐาน จะส่งผลให้ความเป็นซาตินของผิวเคลือบลดลง ทำให้ชิ้นงานที่ได้ไม่เป็นผิวด้านเท่าที่ควร
  • คลอไรด์ (Chloride): คลอไรด์เป็นสารที่ช่วยเพิ่มการนำไฟฟ้าและทำให้สารละลายมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ถ้าเติมมากเกินไปจะทำให้สารละลาย “เงาขึ้น” ซึ่งขัดกับคุณสมบัติการชุบแบบซาติน และทำให้ได้ผิวที่ไม่ด้านเท่าที่ต้องการ
  • บอริกแอซิด (Boric Acid): บอริกแอซิดทำหน้าที่ควบคุมค่า pH ของสารละลาย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการตกเคลือบของสารซาติน หากความเข้มข้นไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจส่งผลให้ผิวที่ได้ไม่สม่ำเสมอ
  • Carrier A/B: สารเคมีกลุ่มนี้เป็นตัวสร้างผิวซาตินโดยตรง หากเติมมากเกินไปอาจทำให้ผิวดูเงาขึ้นชั่วคราวและยากต่อการแก้ไข เนื่องจากสารเหล่านี้มีขนาดเล็กมากจนเครื่องกรองหยาบไม่สามารถกรองออกได้
  • Foaming Agent: ปริมาณของ Foaming Agent มีความสัมพันธ์โดยตรงกับระยะเวลาในการชุบและระดับความด้านของชิ้นงาน ดังนั้นการควบคุมปริมาณให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การบำรุงรักษา

เพื่อรักษาคุณภาพของการชุบ ควรกรองสารละลายทุกวันเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจปนเปื้อน และตรวจวัดค่า pH, อุณหภูมิ, รวมถึงความเข้มข้นของสารละลายเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในมาตรฐานการทำงาน

ความปลอดภัย

ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เสมอ ได้แก่ ถุงมือ, แว่นตานิรภัย และหน้ากาก เพื่อป้องกันอันตรายจากสารเคมี และปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

LINE