← กลับเมนูหลัก

LASER B: น้ำยากัด/จุ่มเงาทองเหลือง

ฟื้นผิวหมองให้เงางาม—ไม่มีควันไนตริก ใช้งานง่าย เหมาะทั้งถังแขวนและถังกลิ้ง

ภาพรวมผลิตภัณฑ์

LASER B เป็นสารละลายกรดสูตรพิเศษสำหรับ กัด/จุ่มเงาทองเหลือง ช่วยกำจัดฟิล์มออกไซด์และคราบแดงที่เกิดหลังจุ่มกรดทั่วไป ให้ผิว เงาสูง คงทน พร้อมนำไปชุบต่อได้โดยไม่ต้องทำความสะอาดซ้ำ อีกทั้ง ไม่มีควันไนตริก จึงปลอดภัยกว่าในการใช้งานจริง รองรับทองเหลืองทุกเกรด ใช้ได้ทั้ง ถังแขวน และ ถังกลิ้ง

จุดเด่นของ LASER B

สรุปข้อดีสำคัญที่หน้างานใช้จริง—เงางาม ปลอดควัน ดูแลง่าย พร้อมชุบต่อ

ผิวเงาแบบกระจก

ลบคราบออกไซด์/คราบแดง คืนผิวเรียบใส เงาทนนาน

ไม่มีควันไนตริก

สูตรไม่มี HNO₃ ลดความเสี่ยงต่อผู้ปฏิบัติงานและพื้นที่ผลิต

พร้อมชุบต่อ

หลังจุ่ม LASER B สามารถเข้าสู่ขั้นตอนชุบถัดไปได้ทันที

ใช้งานง่าย อุณหภูมิห้อง

ทำงานที่อุณหภูมิห้อง ลดโหลดพลังงาน หน้าต่างการทำงานกว้าง

ใช้ได้ทั้งถังแขวน/ถังกลิ้ง

ปรับเข้ากับสายการผลิตเดิมได้โดยไม่ยุ่งยาก

ลดภาระสิ่งแวดล้อม

ไม่มีโครเมต/ฮาโลเจน ช่วยง่ายต่อการบำบัดน้ำเสีย

หลักการทำงาน & ประโยชน์

LASER B เป็นกรดเข้มข้นแบบของเหลวที่ออกแบบเพื่อ ย่อยฟิล์มออกไซด์และคราบแดง บนทองเหลือง ให้แยกตัวอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ทำลายพื้นผิวโลหะดี เมื่อจุ่มครบเวลาจะเห็นผิวเป็นสีน้ำตาลเข้ม (สีโกโก้) จากนั้นล้างด้วยกรดกำมะถันเจือจางเพื่อเปิดเงา

  • ผิวเงาทนหมอง เหมาะชิ้นงานโชว์ผิว
  • ลดขั้นตอนหลังจุ่ม—เข้าสู่บ่อชุบต่อได้
  • ทำงานอุณหภูมิห้อง ลดต้นทุนพลังงาน
  • รองรับทองเหลืองหลายเกรด รวมถึงชิ้นงานมี Pb สูง
ตัวอย่างพื้นผิวทองเหลืองเงาสูง

สเปก & อัตราส่วน

อัตราส่วนแนะนำ (ผสมน้ำยาใช้งาน)

ส่วนประกอบ ค่าแนะนำ หน่วย หมายเหตุ
LASER B 350 ซีซี/ลิตร สารละลายทำงานหลัก
น้ำกลั่น (DI) 650 ซีซี/ลิตร ใช้น้ำ DI/RO เท่านั้น

หน้าต่างการทำงาน

พารามิเตอร์ ค่าแนะนำ
อุณหภูมิ อุณหภูมิห้อง
เวลา 1–3 นาที (จนผิวเป็นสีน้ำตาลเข้ม)
pH < 2.0 (หาก > 2.0 ให้ปรับด้วยกรดกำมะถัน)
โหมดการผลิต ถังแขวน / ถังกลิ้ง

ขั้นตอนการทำความสะอาดและเตรียมผิวด้วย LASER B

การกัดเงาทองเหลืองด้วย LASER B เป็นกระบวนการทางเคมีที่มุ่งเตรียมผิวทองเหลืองให้สะอาด เรียบ และเงางามก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการชุบถัดไป การเตรียมผิวที่ถูกต้องเป็นหัวใจสำคัญ เพราะช่วยกำจัดคราบไขมัน คราบออกไซด์ คราบตะกรัน และสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ออกจากผิวชิ้นงาน ทำให้พื้นผิวพร้อมต่อปฏิกิริยา และช่วยให้ชั้นชุบที่ตามมามีการยึดเกาะที่ดี มีความสม่ำเสมอ และคุณภาพโดยรวมสูงขึ้น

ขั้นตอนการทำงาน (ทั่วไป)

  1. ต้มล้างไขมันด้วย Soak Clean B1 60 กรัม/ลิตร แล้วล้างน้ำสะอาด: ขั้นตอนเริ่มต้นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อกำจัดคราบน้ำมัน คราบไข และสิ่งสกปรกที่ยึดเกาะบนผิวทองเหลืองอย่างทั่วถึง หากคราบเหล่านี้ยังคงอยู่ จะขัดขวางการทำงานของสารเคมีในขั้นตอนต่อไป ส่งผลให้การกัดเงาไม่สม่ำเสมอและเกิดตำหนิบนผิวได้ง่าย
  2. ล้างน้ำสะอาด: ชะล้างสารล้างไขและสิ่งตกค้างออกให้หมด เพื่อลดการพกพาสารเข้าสู่บ่อถัดไป และช่วยให้ปฏิกิริยาต่อเนื่องเกิดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  3. จุ่ม Desmut 1–2 นาที แล้วล้างน้ำสะอาด: น้ำยา Desmut ช่วยละลายฟิล์มออกไซด์ คราบตะกรัน และคราบโลหะสกปรกที่ยึดเกาะแน่นบนผิวทองเหลือง ทำให้ผิวสะอาดสมบูรณ์ พร้อมสำหรับการกัดเงาด้วย LASER B ให้ได้ผิวที่เรียบและสม่ำเสมอ
  4. ล้างน้ำสะอาด: ล้างซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสาร Desmut คงค้างอยู่บนผิว ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดคราบหรือทำให้เงาไม่สม่ำเสมอในขั้นตอนถัดไป
  5. จุ่ม LASER B 1–3 นาที จนผิวเป็นสีน้ำตาลเข้มสม่ำเสมอ แล้วล้างน้ำสะอาด: นี่คือขั้นตอนกัดเงาหลัก โดยสีน้ำตาลเข้มที่เกิดขึ้นทั่วทั้งผิวเป็นตัวบ่งชี้ว่าปฏิกิริยาเกิดขึ้นอย่างทั่วถึง ควรควบคุมเวลาจุ่มให้พอดีเพื่อให้ได้ผิวเรียบ เงางาม และไม่กัดลึกเกินไป ซึ่งอาจทำให้สูญเสียมิติหรือเกิดผิวด้าน
  6. ล้างน้ำสะอาด: ชะล้างสารละลาย LASER B ส่วนเกินออกทันที เพื่อหยุดปฏิกิริยา ลดการเกิดคราบ และเตรียมผิวสำหรับการ “เปิดผิว” ให้เงา
  7. จุ่มกรดกำมะถัน 3% v/v 5–30 วินาที เพื่อเปิดผิวให้เงา แล้วล้างน้ำสะอาด: ขั้นตอน “เปิดผิว” นี้ช่วยให้ผิวกลับมาเงาใสและสะท้อนแสงได้ดี ควรจับเวลาระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการกัดเกิน ซึ่งอาจทำให้ผิวด้านหรือเกิดคราบได้
  8. ล้างน้ำสะอาด: ล้างกรดกำมะถันออกอย่างหมดจด เพื่อลดความเสี่ยงการกัดต่อเนื่องและป้องกันคราบ
  9. สำหรับชิ้นงานที่ Zn/Pb สูง จุ่มกรดฟอสฟอริก 30% v/v 1–2 นาที แล้วล้างน้ำสะอาด: สำหรับทองเหลืองที่มีสังกะสีหรือสารเติมแต่งตะกั่วสูง มักเกิดออกไซด์เฉพาะตำแหน่งที่ดื้อต่อการทำความสะอาด การใช้กรดฟอสฟอริกช่วยละลายคราบเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวสะอาดหมดจดก่อนขึ้นขั้นตอนถัดไป
  10. ล้างน้ำสะอาด: ขจัดกรดฟอสฟอริกตกค้างเพื่อลดความเสี่ยงการปนเปื้อนระหว่างขั้นตอน และลดการเกิดคราบขาวภายหลัง
  11. จุ่มน้ำยากันหมอง 1 ซีซี/ลิตร 30 วินาที: สร้างฟิล์มบางใสบนผิวเพื่อยับยั้งการหมองและการออกซิเดชัน ทำให้ผิวที่กัดเงาคงความเงางามได้ยาวนานขึ้นก่อนนำไปชุบ
  12. เป่าลมหรืออบให้แห้ง ก่อนเข้าสู่ขั้นชุบถัดไป: ทำให้ชิ้นงานแห้งสนิทเพื่อลดคราบน้ำ ป้องกันการยึดเกาะผิดปกติของชั้นชุบ และลดโอกาสการเกิดตำหนิบนผิว

แนะนำสำหรับทองเหลืองหล่อ

  1. ต้มล้างไขมัน B1 60 กรัม/ลิตร แล้วล้างน้ำ: ทองเหลืองหล่อมีรูพรุนและสิ่งปนเปื้อนฝังผิวมากกว่าทองเหลืองรีด จึงต้องล้างไขมันอย่างทั่วถึงเพื่อลดการพกพาสิ่งสกปรกเข้าสู่บ่อถัดไป
  2. จุ่ม Desmut 1–2 นาที แล้วล้างน้ำ: ขจัดฟิล์มออกไซด์จากการหล่อและคราบตกค้างจากกระบวนการขึ้นรูป ทำให้ผิวพร้อมสำหรับการกัดเงา
  3. จุ่ม LASER B 1–3 นาที ที่ความเข้มข้น 350 ซีซี/ลิตร แล้วล้างน้ำ: สำหรับผิวงานหล่อที่หยาบและมีสิ่งแทรก ต้องใช้ความเข้มข้นที่สูงขึ้นเพื่อให้ปฏิกิริยาเกิดสม่ำเสมอทั้งชิ้นงาน
  4. จุ่มกรดกำมะถัน 10% v/v 15–30 วินาที แล้วล้างน้ำ: ใช้ความเข้มข้นสูงขึ้นเพื่อ “เปิดผิว” งานหล่อให้เงา ควบคุมเวลาอย่างใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงการกัดเกินและการสูญเสียมิติของงาน
  5. เคลือบชั่วคราวด้วยกรดโครมิกหรือโซเดียมไบโครเมต 5–10% เพื่อลดการหมอง: ช่วยรักษาผิวที่กัดเงาไม่ให้หมองก่อนการชุบขั้นต่อไป หมายเหตุ สารกลุ่ม Cr6+ ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและกฎหมายอย่างเคร่งครัด
  6. ล้างน้ำกลั่น เพื่อกำจัดคลอไรด์ตกค้าง: ลดความเสี่ยงการเกิดคราบขาวและการกัดต่อเนื่องจากไอออนคลอไรด์ที่อาจคงค้างอยู่
  7. อบแห้ง หรือชุบต่อทันที: ลดการเกิดออกไซด์ซ้ำบนผิวที่เพิ่งเตรียมใหม่ และช่วยให้การยึดเกาะของชั้นชุบมีเสถียรภาพ

การดูแลบ่อและข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัย

  • เก็บในที่เย็นและอากาศถ่ายเท: ควรเก็บน้ำยา LASER B และสารเคมีที่เกี่ยวข้องในบริเวณที่เย็นและมีอากาศถ่ายเทดี เพื่อป้องกันการระเหยของสารเคมีและคงเสถียรภาพของน้ำยา ตรวจสอบค่า pH ของบ่ออย่างสม่ำเสมอและควบคุมให้อยู่ต่ำกว่า 2.0 ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับการกัดเงาทองเหลือง หาก pH สูงขึ้นให้ปรับกลับด้วยกรดกำมะถัน (H₂SO₄) อย่างระมัดระวัง โดยเติมทีละน้อยและกวนให้เข้ากันก่อนวัดซ้ำ
  • ผสมน้ำยาด้วยน้ำ DI หรือ RO เท่านั้น: ใช้น้ำ DI (Deionized Water) หรือ RO (Reverse Osmosis Water) สำหรับการผสมและปรับเติมทุกครั้ง เพื่อป้องกันไอออนและสิ่งเจือปนจากน้ำประปาที่อาจทำปฏิกิริยากับน้ำยา ก่อให้เกิดตะกอน สีเปลี่ยน หรือทำให้ประสิทธิภาพการกัดเงาลดลง
  • สวม PPE และระวังการสัมผัส/ไอระเหย: ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้ครบ ได้แก่ ถุงมือทนสารเคมี แว่นตานิรภัย และหน้ากากป้องกันไอระเหยตลอดเวลาที่ทำงานกับน้ำยา ทำงานในที่อากาศถ่ายเทดี หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง หากน้ำยากระเด็นใส่ผิวหนังให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดทันที
  • การจัดการน้ำทิ้ง: น้ำทิ้งและตะกอนจากกระบวนการถือเป็นของเสียอันตราย ต้องมีการบำบัดและกำจัดอย่างถูกต้องตามกฎหมายท้องถิ่นและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ห้ามทิ้งลงท่อสาธารณะหรือแหล่งน้ำโดยเด็ดขาด ควรแยกเก็บและส่งกำจัดกับผู้รับบำบัดที่ได้รับอนุญาต

ปัญหาที่พบบ่อยในการกัดเงาทองเหลืองด้วย LASER B

  • ผิวไม่เงาหรือเงาไม่สม่ำเสมอ: ชิ้นงานเงาบางส่วนหรือไม่เงาเท่าที่ควร สาเหตุหลักได้แก่ (1) การล้างไขมันไม่ดีพอ ทำให้มีคราบน้ำมัน/คราบสกปรกคงค้าง (2) ข้ามขั้นหรือทำ Desmut ไม่พอ ทำให้ฟิล์มออกไซด์ยังเกาะผิว และ (3) ความเข้มข้นของ LASER B หรือกรดกำมะถันเจือจางเกินไปจนปฏิกิริยาอ่อน วิธีแก้ไข: ทวนขั้นตอน degreasing และการล้างให้สะอาด จุ่ม Desmut ทุกครั้งตามเวลาที่กำหนด และปรับความเข้มข้น LASER B/กรดกำมะถันให้อยู่ในสเปกผู้ผลิต

  • เกิดคราบสีดำหรือจุดด่าง: พบคราบดำหรือจุดด่างหลังกัดเงา สาเหตุจากการจุ่มใน LASER B นานเกินไปจนกัดลึก มีสารปนเปื้อนหรือโลหะลากเข้าบ่อ หรือขั้นล้างก่อนหน้าไม่สะอาด วิธีแก้ไข: ลดเวลาแช่ LASER B ทำความสะอาด/กรองบ่อหรือเปลี่ยนน้ำยาเมื่อจำเป็น และเพิ่มคุณภาพการล้างระหว่างสถานี (counterflow rinse)

  • ชิ้นงานหมองคล้ำเร็ว: ผิวเงาเกิดการหมองภายในไม่กี่ชั่วโมง สาเหตุจากไม่ได้จุ่มน้ำยากันหมองหลังเปิดผิว หรือทำให้แห้งล่าช้า/มีความชื้นเหลือ วิธีแก้ไข: จุ่มน้ำยากันหมองตามอัตราส่วน 1 ซีซี/ลิตร 30 วินาที และเป่าลมหรืออบให้แห้งสนิททันทีหลังล้าง

  • น้ำยามีการตกตะกอน: พบตะกอนสีขาว/ขุ่นในบ่อ สาเหตุจากการใช้น้ำที่ไม่บริสุทธิ์ (ใช้น้ำประปา) หรือมีสิ่งเจือปนจากชิ้นงานหลุดลงบ่อ วิธีแก้ไข: ใช้น้ำ DI/RO สำหรับผสมและปรับเติมเท่านั้น คัดกรองสิ่งแปลกปลอมและควบคุมความสะอาดชิ้นงานก่อนจุ่ม

  • สีของชิ้นงานเปลี่ยน (แดง/ชมพู): เกิดเฉดสีแดงหรือชมพูหลังกัดเงา มักสัมพันธ์กับสัดส่วนสังกะสี (Zn) สูงและออกไซด์เฉพาะตำแหน่ง วิธีแก้ไข: เพิ่มขั้นจุ่มกรดฟอสฟอริก 30% v/v 1–2 นาทีเพื่อละลายออกไซด์ที่เกิดจาก Zn และปรับเวลา/อุณหภูมิการกัดให้เหมาะสมเพื่อลดการเกิดสีเพี้ยน
LINE