← กลับเมนูหลัก

Anti-Tarnish for Copper: น้ำยากันหมองทองแดง/ทองเหลือง

ฟิล์มใสปกป้องผิว ไล่น้ำ แห้งเร็ว ใช้งาน 2–5% (งาน PCB 50 cc/L) ช่วงอุณหภูมิ 20–50 °C จุ่ม 5–15 วินาที

ภาพรวมผลิตภัณฑ์

สารป้องกันการหมอง (Anti-Tarnish Agent) สำหรับทองแดงและทองเหลือง ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังการชุบ/กัดเงา เพื่อป้องกันคราบออกไซด์และช่วยไล่คราบน้ำ ทำให้ผิวโลหะคงความเงางามได้ยาวนานขึ้น 💧

กลไกคือการสร้าง ชั้นฟิล์มใสบาง ๆ บนผิวโลหะ เพื่อกั้นออกซิเจน/สารเคมีในอากาศ ลดการเกิดคราบหมอง และช่วยให้ชิ้นงานแห้งเร็ว ลดรอยคราบน้ำ

จุดเด่นของ Anti-Tarnish for Copper

ป้องกันหมอง ไล่น้ำ แห้งเร็ว ฟิล์มใส ไม่เปลี่ยนโทนสี และปราศจากโครเมียมเฮกซะวาเลนต์

ฟิล์มใสคงความเงา

ปกป้องผิวโดย ไม่เปลี่ยนสี งานยังดูเป็นธรรมชาติ

ไล่น้ำ แห้งเร็ว

ลดคราบด่างจากน้ำ เพิ่มผลผลิตหลังล้างขั้นสุดท้าย

กันออกซิเดชัน

ลดการเกิดคราบหมองของ ทองแดง/ทองเหลือง ได้ยาวนาน

ช่วงใช้งานยืดหยุ่น

ทำงานได้ที่ 20–50 °C จุ่มเพียง 5–15 วิ.

ใช้งานง่าย

ความเข้มข้นทั่วไป 2–5% (งาน PCB 50 cc/L)

ปลอดสารต้องห้าม

ละลายน้ำได้ดี ไม่มีโครเมียมเฮกซะวาเลนต์/คีเลท

สัดส่วนการใช้งาน

ค่ามาตรฐานสำหรับงานทั่วไปและงาน PCB

พารามิเตอร์ ค่าแนะนำ หมายเหตุ
Anti-tarnish for Copper 2–5 % งาน PCB ใช้ 50 cc/L
อุณหภูมิ 20–50 °C อุณหภูมิห้องถึงอุ่น
เวลาในการจุ่ม 5–15 วินาที ปรับตามชิ้นงาน/สายการผลิต

ตัวอย่างการผสม

ตัวอย่าง: เตรียมน้ำยา 1 ลิตร

ส่วนผสม ปริมาณ วิธีการ
Anti-tarnish for Copper (คอนเซนเทรต) 20 ซีซี ตวงให้แม่นยำ
น้ำกลั่น/DI เติมจนครบ 1 ลิตร กวนให้เข้ากันจนใสสม่ำเสมอ

ภาชนะ & อุปกรณ์

  • ตัวถัง: ควรใช้ถังที่ทนทานต่อสารเคมีและไม่ทำปฏิกิริยากับสารละลาย เช่น สแตนเลส, โพลีเอทิลีน (PE), หรือโพลิโพรพิลีน (PP) และควรมีฝาครอบหรือระบบดูดไอเพื่อความปลอดภัยและลดการแพร่กระจายของไอสารเคมี
  • ฮีตเตอร์ (ถ้าต้องการอุ่น): หากต้องการอุ่นสารละลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ควรเลือกฮีตเตอร์ที่ทำจากวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี เช่น แก้ว, เทฟลอน (PTFE), สแตนเลส, เซรามิก หรือแกรไฟต์
  • การทำให้แห้ง: ใช้การเป่าลมหรือการอบอุ่นเพื่อช่วยให้ชิ้นงานแห้งสนิทหลังการจุ่ม ลดคราบน้ำและทำให้ผลของการกันหมองมีประสิทธิภาพสูงสุด

ขั้นตอนการทำงาน

กระบวนการนี้เป็นการใช้สารเคมีประเภท Anti-tarnish เพื่อเคลือบผิวทองเหลืองบาง ๆ ช่วยป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนและสารประกอบอื่น ๆ ในอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดคราบหมองหรือคราบดำ

  1. เตรียมผิว: ชิ้นงานต้องได้รับการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการกันหมอง ไม่ว่าจะเป็นการชุบทองแดง/ทองเหลืองเสร็จใหม่ ๆ หรือผ่านการทำความสะอาดและกัดเงามาอย่างเรียบร้อย ผิวที่สะอาดและเงาจะช่วยให้สารกันหมองเคลือบได้อย่างสมบูรณ์
  2. ล้างน้ำสะอาด: ล้างชิ้นงานด้วยน้ำสะอาดเพื่อกำจัดคราบสารเคมีจากการชุบหรือกัดเงาที่อาจหลงเหลืออยู่
  3. จุ่มน้ำกลั่น: จุ่มน้ำกลั่น (Deionized Water) เพื่อลดการเกิดคราบน้ำและแร่ธาตุบนผิวชิ้นงาน ทำให้ผิวสะอาดที่สุดก่อนเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
  4. จุ่ม Anti-tarnish: จุ่มชิ้นงานลงในสารละลาย Anti-tarnish for Copper เป็นเวลา 5–15 วินาที โดยไม่ต้องใช้ความร้อนหรือกระแสไฟฟ้า
  5. ทำให้แห้ง: นำชิ้นงานขึ้นมาและทำให้แห้งทันทีด้วยการเป่าลมหรืออบ เพื่อให้สารเคลือบแห้งอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

ข้อเสนอแนะ

สำคัญ: ก่อนจุ่มน้ำยากันหมอง ต้องล้างความเป็นกรดออกจากผิวให้หมด หากกรดยังค้างอยู่ จะลดประสิทธิภาพของน้ำยา

ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้สารกันหมองจุ่มเย็นบนทองเหลือง

นี่คือปัญหาที่พบบ่อยในการใช้สารกันหมองจุ่มเย็นบนทองเหลือง พร้อมแนวทางแก้ไข

  1. 1. เกิดคราบหรือจุดด่างบนชิ้นงาน

    สาเหตุ: การเตรียมผิวไม่สะอาด หรือมีคราบน้ำหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะถ้าใช้น้ำประปาที่มีแร่ธาตุผสมอยู่

    แนวทางแก้ไข: ตรวจสอบขั้นตอนการล้างน้ำให้สะอาด โดยเฉพาะขั้นตอน จุ่มน้ำกลั่น (Deionized Water) ก่อนจุ่มสารกันหมอง จะช่วยป้องกันการเกิดคราบจากแร่ธาตุในน้ำได้

  2. 2. ประสิทธิภาพในการกันหมองต่ำ

    สาเหตุ:

    • จุ่มไม่นานพอ: การจุ่มในสารละลายสั้นเกินไป ทำให้สารเคลือบไม่ทั่วถึง
    • การทำให้แห้งไม่ดี: หากชิ้นงานไม่แห้งสนิทหลังจุ่ม จะทำให้เกิดคราบและประสิทธิภาพลดลง

    แนวทางแก้ไข:

    • เพิ่มเวลาจุ่มให้อยู่ในกรอบที่แนะนำ (5–15 วินาที) หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต
    • ใช้ การเป่าลม หรือ การอบอุ่น ให้ชิ้นงานแห้งสนิททันทีหลังการจุ่ม
  3. 3. ชิ้นงานมีสีเปลี่ยนไปหรือสีเพี้ยน

    สาเหตุ: สารกันหมองอาจทำปฏิกิริยากับผิวทองเหลืองที่เตรียมไว้ไม่ดีพอ หรือสารกันหมองมีความเข้มข้นสูงเกินไป

    แนวทางแก้ไข:

    • ควรใช้สารกันหมองที่มีความเข้มข้นตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผิวชิ้นงานสะอาดและเงาดีแล้วก่อนเข้าสู่กระบวนการ
  4. 4. สารละลายเสื่อมสภาพเร็ว

    สาเหตุ: มีสิ่งสกปรก, คราบโลหะ, หรือสารเคมีจากขั้นตอนก่อนหน้าปนเปื้อนเข้ามาในบ่อสารกันหมอง

    แนวทางแก้ไข:

    • ตรวจสอบความสะอาดของชิ้นงานและระบบล้างน้ำให้ดีก่อนจุ่ม
    • ไม่ควรนำชิ้นงานที่ยังไม่สะอาดมาจุ่มในบ่อ
    • หากสารละลายเริ่มสกปรก ควรเปลี่ยนใหม่
LINE