← กลับเมนูหลัก

Tin Anti-Tarnish B100: น้ำยากันหมองดีบุก

ฟิล์มใสป้องกันออกซิเดชัน • คงสีเงา • 50–100 cc/L • 30–55 °C • 10 s–1 min • DI water

ภาพรวมผลิตภัณฑ์

น้ำยากันหมองดีบุก (Tin Anti-Tarnish) สร้าง ชั้นฟิล์มใสบาง บนผิวดีบุกเพื่อยับยั้งออกซิเดชัน ลดคราบหมอง/เหลืองเมื่อสัมผัสอากาศและความชื้น เหมาะกับงานอิเล็กทรอนิกส์และงานตกแต่งที่ต้องการความคงทนของสีและเงา

รุ่น B100 เป็นสูตรน้ำ ใช้งานง่าย เพียงจุ่มในช่วง 30–55 °C ประมาณ 10 วินาที–1 นาที ให้ฟิล์มปกป้องที่คงสีผิวเดิม และน้ำยามีความเสถียร เก็บได้นาน โดยไม่เสื่อมสภาพง่าย

จุดเด่นของ B100

ฟิล์มใสต้านหมอง คงสีเงางาม ใช้งานง่ายในช่วงอุณหภูมิ 30–55 °C และเก็บรักษาได้ยาวนาน

ฟิล์มใสเงางาม

ชั้นเคลือบบาง คงผิวดีบุกให้ดูใหม่

ต้านออกซิเดชัน

ลดคราบหมอง/เหลืองเมื่อเจออากาศชื้น

ไล่น้ำ แห้งเร็ว

ช่วยลดรอยด่างจากน้ำหลังจุ่ม

ทำงาน 30–55 °C

ช่วงอุณหภูมิยืดหยุ่นต่อหน้างาน

ขั้นตอนรวดเร็ว

จุ่มสั้นเพียง 10 s–1 min

เก็บรักษาง่าย

สูตรเสถียร เก็บได้นานไม่เสื่อมง่าย

สเปก & หน้าต่างการทำงาน

พารามิเตอร์ ค่า/ช่วง หมายเหตุ
วัสดุ ดีบุก (Tin) ผิวชุบดีบุก
B100 (คอนเซนเทรต) 50–100 cc/L ปรับตามความทนหมองที่ต้องการ
อุณหภูมิ 30–55 °C ช่วงอุ่น ช่วยรีแอคชัน
เวลาในการจุ่ม 10 s – 1 min ขึ้นกับรูปร่าง/ผิวงาน
น้ำที่ใช้ผสม น้ำกลั่น/DI ลดคราบเกลือ

ตัวอย่างการผสม (10 ลิตร)

  • ตวง B100 = 500 cc (ที่ 50 cc/L)
  • เติมน้ำกลั่นประมาณ 9.5 ลิตร รวมเป็น 10 ลิตร
  • กวนให้เข้ากันจนใสสม่ำเสมอ และอุ่นตามช่วงที่กำหนดก่อนใช้งาน

การเตรียมสารละลาย B100 เป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ค่อย ๆ เติมและกวนจนเป็นเนื้อเดียว ลักษณะใสสม่ำเสมอจึงพร้อมใช้งาน

ขั้นตอนการทำงาน

  1. ชิ้นงานดีบุกที่ชุบเรียบร้อยแล้ว
  2. ล้างน้ำสะอาด 1–2 ขั้น เพื่อขจัดคราบสารเคมีตกค้าง
  3. จุ่มน้ำกลั่น เพื่อลดคราบไอออนหรือเกลือที่อาจหลงเหลืออยู่
  4. จุ่ม B100 ที่ 30–55 °C เป็นเวลา 10 s–1 min โดยควบคุมเวลาและอุณหภูมิให้คงที่
  5. นำขึ้นแล้ว อบร้อนหรือปั่นเหวี่ยงให้แห้ง เพื่อไล่น้ำและป้องกันคราบน้ำ

ควบคุมเวลาและอุณหภูมิภายในกรอบแนะนำเพื่อให้ได้ฟิล์มเคลือบที่มีความหนาสม่ำเสมอและรูปลักษณ์ที่สวยงาม

ความปลอดภัย & ข้อแนะนำ

  • สวม PPE (ถุงมือกันสารเคมี/แว่น) และทำงานในที่อากาศถ่ายเท
  • คุมอุณหภูมิและเวลาในช่วงแนะนำ เพื่อคุณภาพฟิล์มสม่ำเสมอ
  • ผิวงานต้องสะอาด ปราศจากกรด/ด่างค้าง เพื่อประสิทธิภาพการกันหมองที่ดี
  • จัดเก็บน้ำยาในภาชนะปิดสนิท หลีกเลี่ยงแสงและความร้อนสูง

ปัญหาที่พบบ่อย & แนวทางแก้ไข

1) ฟิล์มกันหมองไม่สม่ำเสมอ

  • การล้างไม่สะอาด: มีกรดหรือด่างตกค้างบนผิวชิ้นงาน
  • อุณหภูมิไม่คงที่: ต่ำหรือสูงเกินช่วง 30–55 °C
  • เวลาในการจุ่มไม่เหมาะสม: สั้นเกินไปทำให้ฟิล์มบาง หรือยาวเกินไปจนหนาเป็นคราบ

แนวทางแก้: ตรวจสอบความสะอาดก่อนจุ่ม ใช้การควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ รักษาเวลาในกรอบ 10 วินาที–1 นาที และปรับตามชนิดของชิ้นงาน

2) ประสิทธิภาพในการกันหมองต่ำ

  • น้ำยาเสื่อมสภาพจากสิ่งสกปรกหรือโลหะปนเปื้อน
  • การจัดเก็บไม่เหมาะสม: โดนแสงหรือความร้อนสูงเป็นเวลานาน

แนวทางแก้: เปลี่ยนน้ำยาใหม่เมื่อประสิทธิภาพลดลง จัดเก็บในภาชนะปิดสนิท วางในที่เย็นและมืด

3) เกิดคราบน้ำบนชิ้นงาน

  • การทำให้แห้งไม่ดีหลังการจุ่ม ทำให้เกิดคราบน้ำหรือรอยด่าง

แนวทางแก้: นำชิ้นงานขึ้นแล้วปั่นเหวี่ยงหรืออบร้อนทันทีเพื่อไล่น้ำออกให้หมดและให้แห้งสนิท

LINE