← กลับเมนูหลัก

Copperlume 220 — Non-Cyanide Alkaline Copper

ชั้นรองพื้นทองแดงปลอดไซยาไนด์ ยึดเกาะดี เข้าซอกสูง คุมงานง่าย เหมาะเหล็ก/ซิงค์ไดคาสต์ พร้อมสูตร & พารามิเตอร์ครบ

ภาพรวมผลิตภัณฑ์

การชุบทองแดงด่างไร้ไซยาไนด์ (Non-Cyanide Alkaline Copper Plating) เป็นกระบวนการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการชุบผิวโลหะ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทดแทนระบบด่างแบบดั้งเดิมที่ใช้ไซยาไนด์ (Cyanide) ซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายและมีพิษร้ายแรง การเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ

เนื่องจากทองแดงกรด (Acid Copper) จะทำปฏิกิริยากับผิวเหล็กและสังกะสีอย่างรุนแรง จนเกิดการกัดกร่อนและลอกง่าย การใช้ชั้นทองแดงด่างไร้ไซยาไนด์เป็นชั้นรองพื้น/ชั้นกาว จึงช่วยป้องกันปฏิกิริยาดังกล่าว เพิ่มการยึดเกาะ และเปิดทางให้สามารถชุบด้วยทองแดงกรดในขั้นตอนถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวงานเรียบ สวยงาม และทนทาน

จุดเด่นของน้ำยา

สรุปคุณสมบัติสำคัญสำหรับไลน์ชุบ ทั้งคุณภาพผิว ความเสถียร และความพร้อมต่อกระบวนการถัดไป

ปลอดไซยาไนด์

ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เปรียบเทียบกับระบบที่ใช้ไซยาไนด์ และทำให้การบำบัดน้ำเสียง่ายขึ้น

กึ่งเงา–เงา

ผิวเคลือบที่สวยงามและเนียน สามารถใช้เป็นฐานสำหรับชั้นเคลือบถัดไปได้ดี

ยึดเกาะยอดเยี่ยม

เหมาะสำหรับการชุบกับวัสดุหลายชนิด เช่น เหล็ก, ทองเหลือง, ซิงค์ไดคาสต์, บรอนซ์, และอลูมิเนียม-ซิงค์

เข้าซอกดี

มีการกระจายตัวของสารเคลือบที่ดีเยี่ยม สามารถเคลือบได้ทั่วถึงแม้ในพื้นที่ที่ซับซ้อน

ควบคุมงานง่าย

ควบคุมค่า pH ระหว่าง 8.5–10, ความเข้มข้นของทองแดง 6–8 g/L, อุณหภูมิ 50–60 °C

ใช้งานได้ทั้งแบบแขวนและถังกลิ้ง

สามารถใช้งานได้ในบ่อแบบถังกลิ้งที่หมุนที่ 3–5 rpm หรือในบ่อแบบแขวนที่ใช้การกรองต่อเนื่อง

วัตถุประสงค์

การชุบทองแดงด่างไร้ไซยาไนด์: ทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การชุบทองแดงด่างไร้ไซยาไนด์เป็นกระบวนการชุบด้วยไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนระบบด่างแบบใช้ไซยาไนด์ ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพผู้ปฏิบัติงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งทำให้การบำบัดน้ำเสียง่ายและโปร่งใสมากขึ้น

ปฏิกิริยาแทนที่: ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข

หากชุบด้วยทองแดงกรดโดยตรงบนเหล็กหรือสังกะสี จะเกิดปฏิกิริยาแทนที่ซึ่งทำให้ไอออนทองแดงถูกลดรูปและเคลือบทันที ขณะที่เหล็กหรือสังกะสีละลายออก ส่งผลให้ชั้นทองแดงก่อตัวโดยไม่อยู่ภายใต้การควบคุมกระแสไฟฟ้า

ชั้นทองแดงที่เกิดจากปฏิกิริยานี้จะหลวม ยึดเกาะไม่แน่น และไม่สม่ำเสมอ จึงลอกง่ายและไม่เหมาะสำหรับเป็นฐานของการสร้างชั้นเคลือบถัดไป

บทบาทของสารละลายด่างไร้ไซยาไนด์

การใช้ชั้นทองแดงด่างไร้ไซยาไนด์ช่วยยับยั้งปฏิกิริยาแทนที่ ทำให้เกิดการตกเคลือบแบบควบคุมด้วยกระแสไฟฟ้า เกิดชั้นรองพื้นทองแดงที่ยึดเกาะแน่นและสม่ำเสมอ

แนวทางนี้จึงตอบโจทย์ทั้งด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกับการรับรองคุณภาพ ความทนทาน และความสวยงามของผิวชุบในกระบวนการตกแต่งหรือการใช้งานเชิงวิศวกรรมขั้นสุดท้าย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

น้ำยาชุบทองแดงด่างปลอดไซยาไนด์: Copperlume 220

Copperlume 220 คือน้ำยาชุบทองแดงด่างที่พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนระบบที่ใช้ไซยาไนด์ ช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ใช้สำหรับสร้างชั้นรองพื้น (undercoat) ก่อนการชุบโลหะชั้นถัดไป เช่น นิกเกิลหรือโครเมียม

คุณสมบัติและการใช้งาน

  • ผิวสำเร็จ: กึ่งเงาถึงเงา เรียบสม่ำเสมอ ยึดเกาะดี เหมาะเป็นฐานรองรับการชุบถัดไป
  • การใช้งาน: ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดแวร์ และงานตกแต่ง ก่อนชุบนิกเกิล/โครเมียม
  • วัสดุรองรับ: เหล็ก ทองเหลือง ซิงค์ไดคาสต์ บรอนซ์ และโลหะผสมอะลูมิเนียม–สังกะสี (Al–Zn)

การควบคุมกระบวนการ

  • ความเข้มข้นทองแดง (Cu): 6–8 กรัม/ลิตร (g/L)
  • ค่าความเป็นกรด–ด่าง (pH): 8.5–10 (ด่างอ่อน)
  • อุณหภูมิ: 50–60 องศาเซลเซียส (°C)
  • ระบบกรอง: ไส้กรองขนาด 5–10 ไมโครเมตร (µm) เดินกรองต่อเนื่อง
  • แอโนด: แผ่นทองแดงปราศจากออกซิเจน ความนำไฟฟ้าสูง (Oxygen-Free High Conductivity, OFHC) ใส่ถุงผ้าทนด่าง ควรรักษาอัตราส่วนแอโนด:แคโทดที่ 2:1–3:1 เพื่อการละลายและคุมความเข้มข้นให้เสถียร

สเปก & เงื่อนไขการทำงาน

ตั้งค่าตั้งต้นสำหรับคุณภาพผิวและการยึดเกาะที่สม่ำเสมอ

พารามิเตอร์ ค่าแนะนำ
อุณหภูมิ50–60 °C
pH (งานเหล็ก)9.0–10.0
pH (Zn-die-cast / Al-Zn)8.5–9.5
Cu metalบ่อใหม่ ~6 g/L; ระหว่างชุบ 6–8 g/L
การกวนแขวน: โยก/ลม • ถังกลิ้ง: 3–5 rpm
การกรอง5–10 µm ต่อเนื่อง หรือ ≥3–5 เทิร์น/ชม.
ความหนาแน่นกระแสแอโนด≤ 2 A/dm²
อัตราการชุบ~0.17 µm/นาที @ 1 A/dm²

อัตราส่วนผสม & ตัวอย่างการผสม

อัตราส่วนผสม (บ่อใหม่)

ส่วนประกอบ ช่วงการทำงาน ตัวอย่างต่อ 1 ลิตร
Copper sulfate20–30 g/L25 g/L
Copperlume 220 A (Stabilizer)180–220 mL/L200 mL/L
Copperlume 220 B (Additive)90–120 mL/L105 mL/L
Copperlume 220 Activatorใช้ปรับ pH

ตัวอย่างการผสม (ตามปริมาตรบ่อ)

ปริมาณผสม 100 L 1,000 L
Copper sulfate2.5 kg25 kg
Copperlume 220 A20 L200 L
Copperlume 220 B10.5 L105 L
Copperlume 220 Activatorปรับ pHปรับ pH

ขั้นตอนการเตรียมและบำรุงรักษาน้ำยา Copperlume 220

การเตรียมและบำรุงรักษาน้ำยาชุบทองแดง Copperlume 220 อย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพและความสม่ำเสมอของกระบวนการชุบ

ขั้นตอนการเตรียมน้ำยาใหม่

  • ทำความสะอาดบ่อชุบอย่างหมดจด เติมน้ำกลั่นประมาณ 50% ของปริมาตรรวม
  • ค่อยๆ ละลายคอปเปอร์ซัลเฟต (Copper Sulfate) พร้อมกวนต่อเนื่องจนสารละลายใส ไม่มีตะกอน
  • เติม Copperlume 220 B และกวนให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ เติม Copperlume 220 A พร้อมกวนต่อเนื่องจนเนียนเป็นเนื้อเดียว
  • ตรวจสอบค่า pH และปรับด้วย Activator ให้เหมาะสม — เหล็ก: pH 9–10; ซิงค์ไดคาสต์/อะลูมิเนียม–สังกะสี: pH 8.5–9.5
  • เติมน้ำกลั่นจนครบปริมาตร กวนต่อประมาณ 30 นาทีให้สมดุล แล้วตั้งอุณหภูมิ 50–60 °C

การเตรียมชิ้นงานก่อนการชุบ

ก่อนนำชิ้นงานลงบ่อ ให้ผ่านขั้นตอนการกระตุ้นผิว (Activation) โดยแช่ในสารละลาย Activator ความเข้มข้น 2–5% ตามคำแนะนำ การกระตุ้นผิวช่วยขจัดออกไซด์ที่คงค้าง เพิ่มการยึดเกาะ ลดโอกาสเกิดฟองก๊าซติดผิวหรือการชุบไม่สม่ำเสมอ

การบำรุงรักษา & การปรับเติม

กรองต่อเนื่อง รักษา Cu metal และ pH ให้อยู่ในช่วงแนะนำ ตรวจวิเคราะห์เป็นรอบ

การปรับเติม (ขาด Cu 1 g/L) ปริมาณ
Copper sulfate4 g/L
Copperlume 220 B16 mL/L

การปรับเงา/ความแน่นของผิวให้ปรับ Copperlume 220 B (โดยทั่วไป ~0.8–1.0 L ต่อบ่อ 100 L)

แนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น

  • ชุบติดช้าหรือไม่เกาะ: มักเกิดจากการเตรียมผิวไม่เหมาะสม (ล้างคราบไขมันและการกระตุ้นผิว), ความเข้มข้นของทองแดงไอออน Cu2+ สูงเกินไป หรือค่า pH ต่ำกว่าช่วงที่แนะนำ แนวทางแก้ไขคือทบทวนขั้นตอนการล้างและการกระตุ้นผิวให้สะอาดจริง ปรับลดความเข้มข้นของทองแดงให้อยู่ตามสเปก และปรับ pH กลับเข้าสู่ช่วงที่เหมาะสม โดยทั่วไป 8.5–10 สำหรับระบบนี้ เพื่อให้การยึดเกาะและอัตราการชุบกลับมาปกติ

  • ชิ้นงานไหม้ที่กระแสสูง: เกิดจากการจ่ายกระแสสูงเกิน สาร Copperlume 220 B ไม่พอ อุณหภูมิอาบต่ำ หรือการกวนไม่เพียงพอ แนวทางแก้ไขคือเติม Copperlume 220 B ตามคำแนะนำ ตั้งอุณหภูมิราว 55 °C ลดกระแสให้อยู่ในกรอบทำงาน และเพิ่มการกวนเพื่อให้ไอออนทองแดงกระจายทั่วถึง ลดความร้อนเฉพาะจุดที่ขอบและมุม

  • มีโลหะหนักเจือปน: การปนเปื้อนโลหะหนักทำให้ผิวชุบหมองและไม่สม่ำเสมอ แนวทางแก้ไขคือทำดัมมี่ชุบด้วยกระแสค่อนข้างสูงบนแคโทดพื้นที่มากเพื่อดึงโลหะปนเปื้อนออก จากนั้นตรวจซ้ำจนได้ผลลัพธ์คงที่

  • ค่าทองแดงวาเลนซ์หนึ่ง Cu+ สูง: การสะสมของ Cu+ เกินสมดุลทำให้การฝากโลหะผิดปกติ แนวทางแก้ไขคือเติมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ H2O2 10 เปอร์เซ็นต์ทีละน้อยเพื่อออกซิไดซ์กลับเป็น Cu2+ และตรวจสอบด้วย Hull Cell เป็นระยะจนกลับสู่สภาพปกติ

  • น้ำยาเป็นสีเขียวผิดปกติ: มักบ่งบอกว่าสาร Copperlume 220 B ไม่พอ การกวนไม่ครอบคลุม หรืออุณหภูมิอาบต่ำ แนวทางแก้ไขคือเติม Copperlume 220 B เพิ่มการกวนให้สม่ำเสมอ และคุมอุณหภูมิช่วง 50–60 °C โดยประมาณ 55 °C เป็นจุดทำงานที่เหมาะสม

  • ชุบติดไม่หมด ผิวดำคล้ำ หรือเกิดฝ้า: สาเหตุส่วนใหญ่คือการปนเปื้อนอินทรีย์หรือโลหะ แนวทางแก้ไขคือเติม H2O2 3–5 มิลลิลิตรต่อ ลิตร พร้อมกวนและอุ่นบ่อราว 70 °C เพื่อทำลายสารอินทรีย์ หรือทำคาร์บอนทรีตเมนต์ 5–10 กรัมต่อลิตร แล้วกรองจนใสก่อนกลับเข้าสู่การผลิต

ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

การทำงานกับสารละลายชุบทองแดงด่างจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เนื่องจากสารเคมีมีฤทธิ์กัดกร่อนและเป็นอันตรายหากสัมผัสโดยตรง

  • ความปลอดภัยส่วนบุคคล: สารละลายมีสภาพเป็นด่างและมีเกลือทองแดง อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา ผู้ปฏิบัติงานควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลอย่างครบถ้วนตลอดเวลา ได้แก่ ถุงมือป้องกันสารเคมี แว่นตานิรภัย และหน้ากากป้องกันการสูดดมไอระเหย

  • กรณีฉุกเฉินสารเข้าตา: รีบล้างด้วยน้ำสะอาดที่ไหลผ่านอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 15 นาที แล้วไปพบแพทย์ทันที

  • การควบคุมการปนเปื้อน: เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำยาชุบและลดปัญหาผิวเคลือบ ควรหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนจากน้ำมัน ซิลิโคน และสารลดแรงตึงผิว ซึ่งทำให้การยึดเกาะลดลงและเกิดตำหนิได้

  • การบำบัดน้ำเสีย: แม้เป็นระบบไร้ไซยาไนด์ แต่น้ำเสียยังมีโลหะหนัก ควรปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมเพื่อให้โลหะตกตะกอน แยกกากออก และดำเนินการตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
LINE