← กลับเมนูหลัก

ชุบโครเมี่ยม vs ฮาร์ดโครม ต่างกันยังไง ใช้งานแบบไหน

ทั้งคู่เป็น “การชุบด้วยโครเมี่ยม” เหมือนกัน แต่จุดประสงค์ คุณสมบัติ โครงสร้างชั้นเคลือบ ความหนา และงานที่เหมาะสม แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง บทความนี้สรุปแบบละเอียด

ภาพรวมและเข้าใจผิดที่พบบ่อย

คนส่วนใหญ่มักสับสนระหว่างคำสองคำนี้ แม้ว่าทั้งคู่จะเป็น “การชุบด้วยโครเมี่ยม” เหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วเป็นกระบวนการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของวัตถุประสงค์ คุณสมบัติ และการใช้งาน

สรุปสั้นก่อนลงลึกแบบยาว ชุบโครเมี่ยมตกแต่ง คือการชุบเพื่อความสวยงาม เงางามเหมือนกระจก และป้องกันความหมอง ส่วนฮาร์ดโครม คือการชุบเพื่อความแข็งแกร่ง ทนสึกหรอ ลดแรงเสียดทาน และซ่อมแซมชิ้นงานที่สึก

1: ชุบโครเมี่ยมตกแต่ง (Decorative Chrome / Nickel-Chrome Plating)

คำว่า “ชุบโครเมี่ยม” ที่คุ้นปากในชีวิตประจำวัน เช่น ล้อแม็ก ก๊อกน้ำ กันชน ส่วนใหญ่หมายถึงประเภทนี้

วัตถุประสงค์หลัก

เพื่อความสวยงามและป้องกันความหมองของผิว โดยคงความเงางามได้ยาวนาน

กระบวนการและหัวใจสำคัญ

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือคิดว่ามี “ชั้นโครเมี่ยม” เพียงชั้นเดียว แต่จริงๆ แล้วระบบนี้เป็นการชุบหลายชั้นแบบคลาสสิก คือทองแดง-นิกเกิล-โครเมี่ยม โดยมี “นิกเกิล” เป็นหัวใจของความเงา และ “โครเมี่ยม” เป็นชั้นปิดทับบางๆ เพื่อป้องกันความหมอง

  • ชั้นทองแดง (ถ้ามี): ใช้บนเหล็กหรือซิงค์อัลลอยเพื่อเพิ่มการยึดเกาะและช่วยกลบพื้นผิว
  • ชั้นนิกเกิล: แหล่งกำเนิดความเงาเงาวับเหมือนกระจก มักถูกขัดเงามาอย่างดี
  • ชั้นโครเมี่ยม: ชั้นปิดท้ายที่บางมาก ประมาณ 0.05–0.5 ไมครอน ทำหน้าที่เป็นเกราะใส แข็ง และเฉื่อย ไม่หมอง ให้โทนสีขาวอมฟ้า ทำความสะอาดง่าย

ทำไมต้องโครเมี่ยมทับนิกเกิล

เพราะนิกเกิลแม้เงาสูง แต่สัมผัสอากาศแล้วหมองเป็นสีเหลืองคล้ำได้ง่าย โครเมี่ยมมีความเฉื่อยและไม่หมอง จึงเป็นชั้นปกป้องความเงาของนิกเกิลไว้

คุณสมบัติเด่น

  • เงางามสูง สะท้อนแสงเหมือนกระจก
  • ป้องกันความหมอง รักษาความสวยงามยาวนาน
  • ทนการกัดกร่อนในระดับระบบ “นิกเกิล-โครม”
  • ชั้นโครเมี่ยมแข็ง แต่เนื่องจากบางมาก จึงไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับการเสียดสีหนัก

ตัวอย่างการใช้งาน

อะไหล่รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ เช่น กันชน ล้อแม็ก มือจับประตู ท่อไอเสีย อุปกรณ์สุขภัณฑ์ เช่น ก๊อกน้ำ ฝักบัว และงานเฟอร์นิเจอร์ เช่น ขาโต๊ะ ขาเก้าอี้ และเครื่องใช้ในบ้าน

2: ฮาร์ดโครม (Hard Chrome / Industrial Chrome / Functional Chrome)

“ฮาร์ด” คือ “แข็ง” กระบวนการนี้เน้นคุณสมบัติทางวิศวกรรมเป็นหลัก ไม่ใช่ความเงางาม

วัตถุประสงค์หลัก

เพิ่มความแข็ง ทนสึกหรอ ลดแรงเสียดทาน และใช้ซ่อมแซมชิ้นงานที่สึกเพื่อคืนมิติ

กระบวนการและหัวใจสำคัญ

ชุบโครเมี่ยมลงบนโลหะโดยตรง เช่น เหล็กหรือสแตนเลส โดยไม่จำเป็นต้องมีชั้นนิกเกิลรองพื้น ความหนาของชั้นโครเมี่ยมมากกว่าการชุบตกแต่งหลายเท่า ตั้งแต่ประมาณ 20 ไมครอน ไปจนถึง 500 ไมครอนหรือมากกว่านั้นตามงาน

คุณสมบัติเด่น

  • ความแข็งสูงมาก: โดยทั่วไป ~65–72 HRC หรือ ~850–1200 HV ทนสึกและทนเสียดสีเยี่ยม
  • สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำ: ผิวลื่น ช่วยให้ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ทำงานได้ดีขึ้น
  • ทนการกัดกร่อน: โครเมี่ยมโดยตัวมันเองทนกัดกร่อนได้ดี
  • ซ่อมแซมชิ้นงาน: ใช้พอกเนื้อคืนมิติ แล้วนำไปเจียระไนให้ขนาดแม่นยำ ประหยัดต้นทุน

ลักษณะภายนอก

ผิวฮาร์ดโครมมักออกเทา-เงิน เป็นผิวด้านหรือกึ่งเงา แม้ขัดเงาเพิ่มก็ไม่ฉ่ำเท่าแบบตกแต่งที่มีนิกเกิลรองพื้น

ตัวอย่างการใช้งาน

แกนไฮดรอลิกและนิวเมติก ลูกกลิ้งในงานพิมพ์ งานรีดเหล็ก งานผลิตกระดาษ แม่พิมพ์พลาสติก แหวนลูกสูบ รวมถึงเพลา สกรู และชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ต้องทนการเสียดสีต่อเนื่อง

ตารางเปรียบเทียบแบบลงรายละเอียด

คุณสมบัติ ชุบโครเมี่ยมตกแต่ง (Decorative Chrome) ฮาร์ดโครม (Hard Chrome)
ชื่อเรียกอื่น ชุบโครเมี่ยมเงา, ชุบนิกเกิล-โครม ชุบโครเมี่ยมแข็ง, โครเมี่ยมอุตสาหกรรม
วัตถุประสงค์หลัก ความสวยงาม ความเงางาม ป้องกันความหมอง ความแข็ง ทนสึก ลดแรงเสียดทาน ซ่อมแซมคืนมิติ
ชั้นรองพื้น (Underlayer) จำเป็น (ส่วนใหญ่ใช้นิกเกิล เพื่อความเงา) ไม่จำเป็น (มักชุบลงบนเหล็กหรือโลหะโดยตรง)
ความหนาชั้นโครเมี่ยม บางมาก ~0.05–0.5 µm หนามาก ~20–500+ µm
ความแข็ง (โดยทั่วไป) ชั้นโครเมี่ยมแข็งแต่บาง จึงไม่รองรับงานสึกหนัก สูงมาก ~65–72 HRC (~850–1200 HV)
ลักษณะผิว เงาวับเหมือนกระจก สีขาว-ฟ้า เทา-เงิน ด้านหรือกึ่งเงา
การใช้งานหลัก กันชน ล้อแม็ก ก๊อกน้ำ เฟอร์นิเจอร์ แกนไฮดรอลิก ลูกกลิ้ง แม่พิมพ์ เพลา สกรู

บทสรุป

ชุบโครเมี่ยมตกแต่งกับฮาร์ดโครมเป็นคนละแนวคิด จุดเน้นต่างกันอย่างชัดเจน หากต้องการความสวยงามและป้องกันความหมอง ควรใช้ระบบหลายชั้นแบบนิกเกิล-โครม หากต้องการความแข็ง ทนสึก ลดแรงเสียดทาน หรือซ่อมแซมชิ้นงาน ควรใช้ฮาร์ดโครมที่หนาและแข็งมากกว่า เลือกให้ตรงกับงานตั้งแต่แรกจะประหยัดทั้งเวลาและต้นทุน และได้คุณภาพที่เหมาะสมที่สุด

LINE