← กลับเมนูหลัก

รวมปัญหาสุดคลาสสิกในการลอกนิกเกิล (Nickel Stripping) บนเหล็กและทองเหลือง

เจาะลึกปัญหาในการลอกนิกเกิลออกจากเหล็กและทองเหลือง อะไรคือฝันร้ายของไลน์ชุบ และจะจัดการอย่างไร

ภาพรวมและปัญหาหลัก

ในโลกของการชุบโลหะและการตกแต่งผิว "นิกเกิล" (Nickel) ถือเป็นหนึ่งในโลหะที่ได้รับความนิยมสูงสุด ไม่ว่าจะด้วยคุณสมบัติด้านความเงางาม, ความทนทานต่อการกัดกร่อน, หรือการใช้เป็นชั้นรองพื้นก่อนการชุบโครเมียม แต่ในกระบวนการผลิต ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ 100% ชิ้นงานที่ชุบมามีปัญหา, ชิ้นงานเก่าที่ต้องการการฟื้นฟู, หรือแม่พิมพ์ที่ต้องล้างผิว ทั้งหมดนี้ล้วนนำไปสู่กระบวนการที่ท้าทายและซับซ้อน นั่นคือ "การลอกนิกเกิล" (Nickel Stripping)

การลอกนิกเกิลไม่เหมือนกับการลอกสีหรือคราบสกปรกทั่วไป นิกเกิลเป็นโลหะที่ค่อนข้างทนต่อสารเคมีได้ดี การจะละลายมันออกโดยไม่ทำลายพื้นผิวโลหะแม่ที่อยู่ข้างใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล็กและทองเหลือง จึงเต็มไปด้วยปัญหาและความยาก

บทความนี้จะเจาะลึกถึงปัญหาสุดคลาสสิกที่คนทำงานชุบโลหะต้องเผชิญ เมื่อต้องทำการลอกนิกเกิลออกจากชิ้นงานสองประเภทนี้

ปัญหา: "เลือกปฏิบัติ" ทางเคมีไฟฟ้า

ปัญหาใหญ่ที่สุดของการลอกนิกเกิลอยู่ที่ "ต่างกันของศักย์ไฟฟ้าเคมี" หรือพูดง่ายๆ คือ:

  • สำหรับเหล็ก: เหล็กมีความเป็นโลหะสามัญมากกว่านิกเกิล หมายความว่ากรดหรือสารเคมีส่วนใหญ่ อยากจะละลายเหล็กมากกว่านิกเกิล
  • สำหรับทองเหลือง: ทองเหลืองมีศักย์ไฟฟ้าใกล้เคียงกับนิกเกิล แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกกัดผิว โดยเฉพาะส่วนผสมอย่างซิงค์หรือสังกะสี

ดังนั้น น้ำยาลอกนิกเกิลที่ดีจึงต้องเลือกที่จะลอกนิกเกิลเท่านั้น โดยต้องดูแลโลหะพื้นผิวไปพร้อมๆกัน ซึ่งในทางปฏิบัติ มันไม่ง่ายเลย

1: ปัญหาการลอกนิกเกิลบน "เหล็ก" (Steel)

เหล็กเป็นโลหะพื้นฐานที่พบได้บ่อยที่สุด และปัญหาที่พบก็หนักหน่วงที่สุดเช่นกัน

1. ปัญหาคลาสสิก: ชิ้นงานเหล็กถูกกัดกร่อน

>นี่คือฝันร้ายอันดับหนึ่ง หากใช้น้ำยาลอกผิดประเภท เช่น การใช้กรดเกลือ หรือกรดกำมะถันเจือจางที่ไม่มีตัวยับยั้งที่ดีพอ ผลลัพธ์คือ นิกเกิลยังไม่ทันหมด แต่เหล็กก็แหว่งหรือบางไปแล้ว

  • สาเหตุ: เหล็กมีปฏิกิริยาไวต่อกรดมากกว่านิกเกิลมาก
  • ผลกระทบ: ชิ้นงานเสียรูปทรง, ขนาดเพี้ยน, ผิวขรุขระจนไม่สามารถนำไปชุบใหม่ได้, หรือเกิดการกัดกร่อนใต้ผิวบริเวณขอบรอยแตกของนิกเกิล
  • ทางแก้ (ที่นิยม):
    • การลอกแบบไฟฟ้า (Electrolytic Stripping): ใช้ผง TH-9 โดยให้ชิ้นงานเป็นขั้วบวก (Anode) กรดเข้มข้นจะทำให้นิกเกิลละลาย แต่จะสร้างชั้นฟิล์มป้องกัน (Passivation layer) บนผิวเหล็กไม่ให้ถูกกัด
    • การลอกแบบเคมี (Chemical Stripping): ใช้ผงลอกนิกเกิลบนเหล็กที่มีส่วนผสมของสารที่ลอกนิกเกิลและสารยับยั้งสำหรับเหล็ก

2. ปัญหาการเปราะจากไฮโดรเจน

สำหรับเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงหรือเหล็กชุบแข็ง การลอกนิกเกิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการที่ใช้กรดหรือการลอกแบบไฟฟ้า (ซึ่งเกิดก๊าซไฮโดรเจน) เป็นเรื่องที่อันตรายมาก

  • สาเหตุ: อะตอมของไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นในปฏิกิริยา จะแทรกซึมเข้าไปในโครงสร้างผลึกของเหล็ก
  • ผลกระทบ: ชิ้นงาน (เช่น สปริง, สลักเกลียวแรงดึงสูง) จะสูญเสียความเหนียวและ "เปราะ" อย่างมาก อาจแตกหักได้เมื่อรับแรงเพียงเล็กน้อย
  • ทางแก้: ต้องนำชิ้นงานไป "อบไล่ไฮโดรเจน" ทันทีหลังจากการลอก หรือเลือกใช้น้ำยาลอกประเภทที่ไม่ก่อให้เกิดไฮโดรเจน

3. ปัญหาโครเมียมปนเปื้อน

บางครั้ง การลอกก็ "หยุด" ไปเฉยๆ แม้ว่านิกเกิลจะยังอยู่

  • สาเหตุ: ผิวนิกเกิลเองก็สามารถสร้างฟิล์มออกไซด์บางๆ ขึ้นมาได้ โดยเฉพาะนิกเกิลที่มีโครเมียมปนเปื้อน หรือเมื่อใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์ออกซิไดซ์สูง (เช่น กรดไนตริกเข้มข้น ซึ่งบางสูตรใช้ลอกนิกเกิลจากเหล็กได้ แต่คุมยากมาก)
  • ผลกระทบ: ลอกนิกเกิลไม่หมด ต้องเสียเวลาลอกซ้ำ หรือต้องใช้วิธีกระตุ้นผิว ซึ่งเสี่ยงต่อการกัดกร่อนเหล็ก

4. ปัญหาคราบดำ (Smut) และการลอกไม่สมบูรณ์

  • สาเหตุ: การลอกแบบเคมีมักทิ้งคราบคาร์บอน (จากสารเติมแต่งในน้ำยาชุบนิกเกิลเดิม) หรือคราบโลหะอื่นๆ ไว้บนผิวเหล็ก หรือเกิดจากน้ำยาลอกที่ "เก่า" จนความเข้มข้นของนิกเกิลที่ละลายอยู่สูงเกินไป
  • ผลกระทบ: ผิวเหล็กสกปรก ต้องขัดล้างเพิ่ม และหากลอกไม่หมดเป็นจุดๆ (เนื่องจากการไหลเวียนของน้ำยาไม่ดี) ก็ต้องเริ่มกระบวนการใหม่

2: ปัญหาการลอกนิกเกิลบน "ทองเหลือง" (Brass)

ทองเหลืองเป็นโลหะผสมระหว่างทองแดงและซิงค์หรือสังกะสี ปัญหาจึงเปลี่ยนไปจากเหล็กโดยสิ้นเชิง

1. ปัญหาคลาสสิก: การสูญเสียซิงค์หรือสังกะสี

นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดของทองเหลือง น้ำยาลอกที่เป็นกรดหลายชนิด แม้จะออกแบบมาให้ปลอดภัยกับทองแดง แต่กลับ เลือกละลายสังกะสีออกจากเนื้อทองเหลือง

  • สาเหตุ: สังกะสีมีความเป็นโลหะสามัญมากกว่าทองแดง
  • ผลกระทบ: ชิ้นงานจะ "พรุน" หมือนฟองน้ำ ผิวจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูของทองแดงที่เหลืออยู่ สูญเสียความแข็งแรงอย่างถาวร และไม่สามารถนำไปชุบให้เงางามได้อีกต่อไป

2. ปัญหาผิวงานด้าน หรือถูกกัด

สำหรับงานที่เน้นความสวยงาม เช่น ก๊อกน้ำ, อุปกรณ์ในห้องน้ำ ผิวทองเหลืองหลังลอกนิกเกิลออกต้องเรียบและเงา หรืออย่างน้อยก็ต้องไม่เสียหาย

  • สาเหตุ: น้ำยาลอก แม้จะไม่ทำให้เกิดรอยคราบ แต่ก็มักจะ "กัด" (Etch) ผิวทองเหลืองเล็กน้อย ทำให้ผิวที่เคยเรียบเงากลายเป็นผิวด้าน หรือผิวซาติน
  • ผลกระทบ: ต้องเสียแรงและเวลาในการขัดเงา ชิ้นงานใหม่ทั้งหมดก่อนนำไปชุบ ซึ่งอาจทำให้รายละเอียดเล็กๆ หรือสันมุมของชิ้นงานหายไป

3. ปัญหาการพึ่งพา "ไซยาไนด์" (Cyanide Issues)

ในอดีต (และบางที่ในปัจจุบัน) น้ำยาลอกนิกเกิลบนทองเหลืองและทองแดงที่มีประสิทธิภาพสูง มักมี "ไซยาไนด์" (Cyanide) เป็นส่วนประกอบหลัก

  • สาเหตุ: ไซยาไนด์สามารถจับตัวเป็นสารประกอบเชิงซ้อน กับทั้งนิกเกิล, ทองแดง, และสังกะสี ทำให้มันละลายออกมาได้ดีโดยไม่ค่อยกัดผิว
  • ผลกระทบ: ไซยาไนด์เป็นสารพิษร้ายแรงมาก การจัดการ, การใช้งาน, และการบำบัดของเสียจึงเป็นอันตราย, มีค่าใช้จ่ายสูง, และมีกฎหมายควบคุมเข้มงวด ปัจจุบันอุตสาหกรรมส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ไซยาไนด์อย่างที่สุด

4. ปัญหาการลอกแบบไม่สม่ำเสมอ (Uneven Stripping)

  • สาเหตุ: มักเกิดกับการลอกแบบไฟฟ้า บนชิ้นงานที่มีรูปทรงซับซ้อน บริเวณซอกหลืบ กระแสไฟจะไปไม่ถึง ทำให้นิกเกิลในซอกละลายช้ากว่าบริเวณภายนอก
  • ผลกระทบ: ต้องใช้เวลานานขึ้น หรือต้องขยับชิ้นงานบ่อยๆ และเสี่ยงที่บริเวณภายนอกจะถูกกัดกร่อนก่อนที่นิกเกิลในซอกจะหมด

ปัญหาร่วมและข้อควรพิจารณาอื่นๆ

ไม่ว่าจะลอกบนเหล็กหรือทองเหลือง ยังมีปัญหาร่วมอื่นๆ ที่ต้องจัดการ:

  • อายุการใช้งานของน้ำยา (Bath Life): เมื่อนิกเกิลละลายลงไปในน้ำยาจน "อิ่มตัว" ประสิทธิภาพการลอกจะลดลงฮวบฮาบ ต้องมีการควบคุมความเข้มข้นของนิกเกิลในน้ำยา และต้องเปลี่ยนถ่ายบ่อย ทำให้สิ้นเปลือง
  • การจัดการของเสีย (Waste Management): น้ำยาลอกที่หมดอายุใช้งานเต็มไปด้วยนิกเกิล (ซึ่งเป็นโลหะหนัก) และสารเคมีอันตราย (กรด, ไซยาไนด์, หรือสารประกอบอื่นๆ) ถือเป็นกากอุตสาหกรรมอันตรายที่ต้องบำบัดอย่างถูกต้อง
  • ความปลอดภัย (Safety): น้ำยาลอกส่วนใหญ่มีความเป็นกรด/ด่างสูง, กัดกร่อนรุนแรง, หรือปล่อยไอระเหยที่เป็นพิษ (เช่น ไอของกรดไนตริก) ผู้ปฏิบัติงานต้องมีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่เหมาะสม
  • การลอก Electroless Nickel: การลอกนิกเกิลแบบไม่ใช้ไฟฟ้า (Electroless Nickel - EN) ซึ่งเป็นโลหะผสมนิกเกิล-ฟอสฟอรัส (Ni-P) หรือนิกเกิล-โบรอน (Ni-B) มักจะ "ยากกว่า" การลอกนิกเกิลชุบไฟฟ้า (Electrolytic Nickel) ทั่วไป และต้องการน้ำยาสูตรเฉพาะทาง

บทสรุป

การลอกนิกเกิลออกจากเหล็กและทองเหลือง เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ มันคือการต่อสู้ทางเคมีไฟฟ้าที่ละเอียดอ่อน

การเลือกกระบวนการที่ถูกต้อง (ไฟฟ้า หรือ เคมี), การเลือกสูตรน้ำยาที่เหมาะสมกับโลหะพื้นผิว (เหล็ก หรือ ทองเหลือง), และการควบคุมตัวแปรต่างๆ (อุณหภูมิ, ความเข้มข้น, กระแสไฟ) อย่างเข้มงวด คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ "นิกเกิล" หลุดออกไป โดยที่ "ชิ้นงาน" อันมีค่ายังคงอยู่รอดปลอดภัย พร้อมสำหรับการชุบครั้งใหม่ครับ

LINE